เพื่อให้บริษัทมีการพัฒนาด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีหรือบรรษัทภิบาลอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาขององค์กรในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงสมควรแต่งตั้งคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืน เพื่อทำหน้าที่ในการกำกับ ส่งเสริม และสนับสนุนให้บริษัทมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สร้างความเชื่อถือและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ข้อ 1. นิยาม
ในระเบียบนี้ “บริษัท” หมายความว่า บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ
ข้อ 2. การแต่งตั้ง
คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืน (Corporate Governance and Sustainability Committee) ประกอบด้วยกรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 คน โดยในจำนวนนี้ต้องเป็นกรรมการอิสระ 2 คน
คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้แต่งตั้งกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนคนใดคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืน
คณะกรรมการบริษัท หรือประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืน มีอำนาจแต่งตั้งบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลายคนตามที่เห็นสมควรให้เป็นเลขานุการคณะกรรมการบรรษัทภิบาล เพื่อทำหน้าที่ด้านเลขานุการของคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืน
ข้อ 3. คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม
กรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้
ข้อ 4. หน้าที่และความรับผิดชอบ
คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืน มีหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังนี้
ในการปฏิบัติงานตามขอบเขตหน้าที่ ให้คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนมีอำนาจในการกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวเนื่องตามขอบเขต หน้าที่ และความรับผิดชอบ รวมถึงมีอำนาจในการเรียกสั่งการให้ฝ่ายจัดการ หัวหน้าหน่วยงาน หรือพนักงานของบริษัทที่เกี่ยวข้องมาให้ความเห็น เข้าร่วมประชุม หรือส่งเอกสารที่เห็นว่าเกี่ยวข้องและจำเป็น
นอกจากนี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ขอบเขตหน้าที่ของกฎบัตรฉบับนี้ คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนอาจขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาอิสระภายนอก หรือผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพอื่น ๆ หากเห็นว่ามีความจำเป็นและเหมาะสม โดยบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด
คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ต่อคณะกรรมการบริษัทโดยตรง และคณะกรรมการบริษัทมีความรับผิดชอบในการดำเนินการทุกประการของบริษัทต่อบุคคลภายนอก
ข้อ 5. วาระและค่าตอบแทน
กรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนมีวาระอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการบริษัท
เมื่อมีกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนพ้นจากตำแหน่ง หรือมีเหตุใดที่กรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนไม่สามารถอยู่ได้จนครบวาระ คณะกรรมการบริษัทจะต้องแต่งตั้งกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนใหม่แทนให้ครบถ้วนอย่างช้าภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่จำนวนสมาชิกไม่ครบถ้วน
เมื่อครบกำหนดตามวาระดังกล่าวในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนขึ้นใหม่ ให้กรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อดำเนินงานต่อไป จนกว่ากรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่ กรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับแต่งตั้งให้กลับเข้าดำรงตำแหน่งต่อไปอีกได้
นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว กรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนพ้นจากตำแหน่งเมื่อขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 3
คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนจะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับหน้าที่และความรับผิดชอบ โดยได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และต้องเปิดเผยค่าตอบแทนไว้ในรายงานประจำปีของบริษัทด้วย
ข้อ 6. การประชุม
ให้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนตามที่คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืน หรือประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนเห็นว่าจำเป็นและเหมาะสม อย่างไรก็ตามต้องจัดให้มีการประชุมไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้ง
ในการเรียกประชุมคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืน ให้ประธานคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืน หรือเลขานุการคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนโดยคำสั่งของประธาน แจ้งไปยังกกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 7 วันก่อนวันประชุม เว้นแต่ในกรณีจำเป็นรีบด่วน จะแจ้งการนัดประชุมโดยวิธีอื่นหรือกำหนดวันประชุมให้เร็วกว่านั้นก็ได้
การประชุมคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืน ต้องมีกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม หากประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนไม่อยู่ในที่ประชุม ให้กรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนที่มาประชุมเลือกกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนหนึ่งคนมีหนึ่งเสียงในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด ทั้งนี้ เลขานุการคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
กรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนผู้ใดมีส่วนได้เสียเป็นการส่วนตัวในเรื่องใด หรือมีส่วนได้เสียใด ๆ ในเรื่องที่พิจารณา จะต้องแจ้งให้ที่ประชุมทราบและงดให้ความเห็น งดออกเสียง และออกจากห้องประชุม ยกเว้นที่ประชุม (ไม่รวมกรรมการที่มีส่วนได้เสีย) มีมติเอกฉันท์ให้กรรมการผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วมชี้แจงข้อมูลในการประชุมเพื่อความรอบคอบในการพิจารณา แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงหรือตัดสินใจในเรื่องนั้น
คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนมีอำนาจเชิญฝ่ายจัดการ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่เห็นสมควรเข้าร่วมประชุม หรือขอให้ชี้แจงในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้
ข้อ 7. การรายงาน
คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและพัฒนาความยั่งยืนรายงานการดำเนินงานตามที่เห็นควรต่อคณะกรรมการบริษัท